เมื่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เกษตรกรต้องปรับเปลี่ยนอย่างไร
 
เมื่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาลแบบนี้ เกษตรกรไทย ต้องรับมือและปรับเปลี่ยนอย่างไรดี วันนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรหาคำตอบมาให้แล้ว
 
1. ภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร❓
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือ ลักษณะอากาศเฉลี่ย ที่หมายรวมถึงลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอากาศทั้งหมด เช่น อุณหภูมิ ฝน ลม เป็นต้น ที่มีการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่หนึ่ง โดยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะเป็นผลทางตรง หรือทางอ้อมมาจากกิจกรรมของมนุษย์ ที่ทำให้องค์ประกอบของบรรยากาศเปลี่ยนแปลงไป นอกเหนือจากความผันแปรตามธรรมชาติ
 
2. มนุษย์ทำอะไร ถึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ❓
🔴 กิจกรรมของมนุษย์ที ่มีผลทำให้ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง คือ กิจกรรมที่ทำให้ปริมาณก๊าซเรือน กระจกในบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น เช่น การใช้พลังงานในครัวเรือนและร้านค้า การเผาไหม้เชื้อเผลิงจากฟอสซิล และโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น เป็นสาเหตุให้ภาวะเรือนกระจกรุนแรงกว่าที่ควรเป็นตามธรรมชาติ และ ส่งผลให้อุณหภูมิพื้นผิวโลกสูงขึ้น เรียกว่า "ภาวะโลกร้อน"
🔴 การเผาในพื้นที่เกษตร เป็นหนึ่งกิจกรรมที่ส่งผลให้ภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง

🟡 ทำให้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดจากการเผาจะลอยตัว ขึ้นไปปนเปื้อนกับไอน้ำในชั้นบรรยากาศ ทำให้ไอน้ำไม่บริสุทธิ์ ไม่สามารถรวมตัวและกลั่นตกลงมาเป็นฝนได้
🟡 ทำให้โลกร้อน เกิดปัญหาฝนแล้ง ฝนทิ้งช่วง และน้ำท่วมขัง เนื้องจากการเผาเศษวัสดุ การเกษตรในที่โล่ง ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ทำให้ธรรมชาติเสียสมดุล เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

ดังนั้น หากเกษตรกรไม่อยากให้เกิดผลกระทบที่ทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องช่วยกันสอดส่อง ดูแลพื้นที่เกษตร ไม่ให้เกิดการเผาตอซัง ฟางข้าว ไร่อ้อย หรือไร่ข้าวโพด เพราะ "เมื่อเราไม่เผา" ก็จะสามารถลดปริมาณฝุ่นควัน PM 2.5 รวมถึงลดสาเหตุอันทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้
 
3. เกษตรกรควรปรับตัวอย่างไร เมื่อภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือเข้าสู่ภัยแล้ง❓
สถานการณ์ภัยแล้งประกอบกับสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้คาดว่าจะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ต่อเนื่องยาวนานไปจนถึงครึ ่งปีแรกของปี 2567 ซึ่งอาจส่งผลกระทบเป็นวงกว้างให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับ ความเสียหาย เกษตรกรขาดรายได้ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทานจะได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุด

เกษตรกรจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีการเพาะปลูก อาทิ ปลูกพืชอายุสั้น หรือพืชที่ใช้น้ำน้อย รักษา ความชื้นในดิน ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้ง ด้วยการใช้วัสดุคลุมหน้าดิน เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น วางแผนใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าและประหยัด ให้น้ำพืชในช่วงเช้าและเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ เลือกระบบน้ำที่มี ประสิทธิภาพเหมาะสมกับพื้นที่และชนิดพืช
 
4. พืชอายุสั้น พืชใช้น้ำน้อย มีอะไรบ้าง ❓
โดยทั่วไปพืชทุกชนิด ล้วนต้องอาศัยน้ำในการเจริญเติบโตให้ผลผลิตทั้งสิ้น แต่ในช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน -เมษายน) มักจะมีความเสี่ยงเกิดความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาปัญหาและเป็นการส่งเสริมการปลูกพืช ส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้จากการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้ง จึง แนะนำให้เกษตรกรพิจารณาเลือกปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย ดังนี้

🟢 กลุ่มพืชผัก เช่น พริก มะระจีน แตงกวา คะน้า ถั่วฝักยาว กวางตุ้ง แตงไทย เพาะเห็ดฟาง กองเตี้ย และมันเทศ/มันเทศญี่ปุ่น
🟢 กลุ่มพืชไร่ เช่น ข้าวโพดหวาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนา ถั่วเขียวผิวมัน และถั่วเหลือง
🟢 กลุ่มไม้ดอกไม้ประดับ เช่น ดาวเรืองตัดดอก อโกลนีมา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม พืชที่แนะนำข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างพืชที่จะช่วยลดผลกระทบจากภัยแล้งได้ในระดับหนึ่ง เป็นทางเลือกเผื่อประกอบการตัดสินใจในการวางแผนการเพาะปลูกในรอบถัดไป หากท่านตัดสินใจ เลือกพืชที่ต้องการจะปลูกได้แล้ว ควรศึกษาวิธีปลูก ดูแลรักษา เก็บเกี่ยว ไปจนถึงบรรจุบหีบห่อ ตลอดจนการสร้างมูลค่า เพิ่มผลผลิต โดยศึกษารายละเอียดจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น เอกสาร ศึกษาดูงานจากคนที่ทำอยู่แล้ว และเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ
 
5. กรมส่งเสริมการเกษตรมีหลักสูตรให้เกษตรกรเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชหน้าแล้งหรือไม่ ❓
กรมส่งเสริมการเกษตรเปิดหลักสูตร "พืชสู้แล้งเงินล้าน" รับสมัครผู้สนใจเรียนรู้ด้านการปลูกพืชใช้น้ำน้อย ผ่านโรงเรียนเกษตรทางไกล เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรวิเคราะห์ต้นทุนการผลิต ศึกษาแนวโน้มความต้องการของตลาด ราคาและแหล่งรับซื้อผลผลิตที่สามารถนำมากำหนดแผนการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยได้จริง เสริมสร้างทักษะด้านการปลูกพืชใช้น้ำน้อยที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพและเหมาะสม สำหรับพืช 5 ชนิด ได้แก่ แตงโมดาวเรืองตัดดอก ฝักทอง ถั่วเขียวผิวมัน กระเจี๊ยบเขียว

ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ใกล้บ้านท่าน มีนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร หรือเกษตรตำบล ที่คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือในการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นแก่ท่านอย่างใกล้ชิด
 
ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ หลักสูตร "พืชสู้แล้งเงินล้าน" สามารถสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านเว็บไซต์ www.am1386.com ในเมนูโรงเรียนเกษตรทางไกล
--------------------------------------------------------------------------
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0 2955 1641 📱
--------------------------------------------------------------------------
⭐️ ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างการรับรู้สู่ชุมชน ครั้งที่ 6/ 2567 ⭐️